วันอังคารที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2558

เที่ยวกาญ...กันเถอะ (ตอน 5 ...จุดชมวิวป้อมปี่ - ถ้ำกระแซ - พระปฐมเจดีย์)



ในวันเดียวกันช่วงสาย พวกเราเดินทางออกจากสังขละบุรี
เพื่อมุ่งหน้าไปยัง ........
ที่นี่ล่ะค่ะ ที่แอมบอกไว้ว่า...
"ตอนมากาญกับพ่อ ยังมีอะไรที่คาใจอยู่"
สถานที่นั้นคือ "ทางรถไฟสายมรณะ"


พวกเรามุ่งหน้าเข้าเมืองกาญจนบุรี ตามถนนสาย 323 ค่ะ

ขับรถชมวิวเขื่อนเขาแหลมมาเรื่อยๆ .....
พวกเราก็มาถึงที่นี่ค่ะ


พวกเราดูนาฬิกาแล้ว เห็นว่ายังมีเวลา
สามารถแวะได้..... ก็จัดไปค่ะ
^____^

"จุดชมวิวป้อมปี่" อุทยานแห่งชาติเขาแหลม
ถ้าออกมาจากสังขละบุรี สถานที่นี้อยู่ทางขวามือค่ะ

ค่าเข้าชมคนละ 40 บาท และรถยนต์คันละ 30 บาทค่ะ


สถานที่นี้เป็นจุดชมวิวเขื่อนเขาแหลม 
หรือเขื่อนวชิราลงกรณ
ที่สวยที่สุดจุดหนึ่ง 



ว่ากันว่ายามพระอาทิตย์ตกดิน 
คือช่วงที่สวยที่สุดค่ะ

นักท่องเที่ยวนิยมไปถ่ายรูป บ้างก็ไปกางเต๊นท์
ที่นี่มีจุดกางเต๊นท์ และเต็มไปด้วยพันธุ์ไม้นานาพันธุ์

มีร้านอาหาร และห้องน้ำ ห้องอาบน้ำหลายจุดเลยค่ะ


เดินชม ถ่ายภาพมาสักพัก พวกเราก็เจอป้ายไปยังสะพานแขวนค่ะ




สะพานแขวนแห่งนี้ ...
หากเดินจากที่จอดรถ ไปยังจุดชมวิว
สะพานจะอยู่ซ้ายมือ
เดินลงเนินไปนิดเดียวก็ถึงค่ะ

   


เก็บภาพเสร็จ... พวกเราก็เดินทางต่อค่ะ


...บรรยากาศระหว่างทาง...


ไปกันต่อเลยค่ะ....

พวกเราออกจากจุดชมวิวป้อมปี่
ลืมบอกไปว่าระหว่างทางตั้งแต่สังขละบุรีมา
พวกเราหาทางเข้าถ้ำ ถ้ำหนึ่ง
ซึ่งพี่ๆ บอกมาว่า เป็นที่ฝังทองสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
(ถ้ำที่โกโบริแอบทองไว้ พี่บอกแบบนี้ค่ะ อิอิ)
นั่นคือ "ถ้ำลิเจีย" ค่ะ

พวกเราผ่านวัดลิเจีย แต่ไม่เจอป้ายไปถ้ำ
พวกเราเลยไม่แวะกันค่ะ

มุ่งหน้าสู่ถ้ำกระแซ
ทางเข้าหาไม่ยากเช่นกัน
กาญจนบุรีเป็นจังหวัดที่มีที่เที่ยวเยอะมาก
แล้วก็มีป้ายบอกทางเยอะมากเช่นกัน
ไปตามทางรถไฟสายมรณะค่ะ

ไปถึงก็จอดรถ... แล้วก็ลุยเลยค่ะ
พวกเราไปถึงที่นี่ ฝนก็ตกปรอยๆ 
แต่ก็ทำอะไรพวกเราไม่ได้ ลุยไปทั้งอย่างนั้นล่ะค่ะ
บริเวณทางเข้ามีร้านอาหารและของที่ระลึก

"ถ้ำกระแซ" 
ตั้งอยู่ที่ ต.วังโพธิ์ อ.ไทรโยค
เป็นจุดชมวิวที่มีความสวยงาม
และมีชื่อเสียงมากด้วยค่ะ

นอกจากจะมีถ้ำแล้ว
ยังมีทางรถไฟที่ปัจจุบันยังมีการใช้งานอยู่
เป็นเส้นทางรถไฟที่อันตรายที่สุด
ของการเดินทางระหว่าง
กรุงเทพฯ ไปสถานีน้ำตกค่ะ

ป้ายเวลาของสถานีถ้ำกระแซค่ะ

ทางรถไฟ - ชานชาลา


ทางรถไฟเลียบหน้าผา ตัดผ่านถ้ำกระแซค่ะ


และทางรถไฟจุดนี้เองที่ถือเป็น
"ทางรถไฟสายมรณะ"

ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
ญี่ปุ่นได้เกณฑ์เชลยศึกจำนวนมาก
มาสร้างทางรถไฟแห่งนี้
และใช้ถ้ำกระแซเป็นจุดพัก

เนื่องจากจุดนี้เป็นจุดที่อันตรายที่สุด
ในการก่อสร้างทางรถไฟ เพราะต้องสร้างตัดผ่านหน้าผาหินสูงชัน
อีกฝั่งเป็นเหวลึกสู่ลำน้ำแควน้อย

ระยะทางที่ลำบากที่สุดยาว 400 เมตรนี้
ประกอบกับไม่มีเครื่องจักรใดๆ 
มีแต่จอบ สิ่ว ค้อน ขวานธรรมดา
ทำโครงสร้างด้วยไม้

เชลยศึกจึงต้องทำงานด้วยความยากลำบาก
ประกอบกับขาดแคลนอาหาร
ทำให้กลายเป็นโศกนาฏกรรมทางสงคราม
เชลยศึกนับหมื่นชีวิตต้องมาจบชีวิตที่นี่ค่ะ


ช่วงที่พวกเราไป มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก
กำลังเดินเรียงแถวกันไปตามทางรถไฟ
ซึ่งช่วงบ่ายจะไม่มีรถไฟผ่าน 
สามารถเดินผ่านได้ค่ะ

เดินไป ฝนก็ยิ่งตกค่ะ
ช่วงที่ตกหนักพวกเราก็หลบฝนกันใต้ต้นไม้
บางช่วงต้นไม้หนาทึบ พวกเราไม่เปียกเลยค่ะ


เดินไป ถ่ายภาพไปเรื่อยๆ ค่ะ

อากาศร้อนมากเลยค่ะ แต่ก็ทน

พวกเราเดินกันไม่ถึงทางโค้ง 


เนื่องจากอากาศร้อนอบอ้าว
ฝนปรอยๆ ทำให้พวกเราเริ่มเหนื่อยและปวดหัว
พวกเราเลยเดินกลับมายังถ้ำกระแซ

มองจากปากถ้ำจะเห็นพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ทางขวามือ

ด้านหลังสามารถเดินเข้าไปได้ค่ะ
แต่ทางเข้าแคบและเล็กมาก

พวกเราไปถึงจุดนั้นก็กลับค่ะ หันหลังมาก็พบกับภาพนี้ค่ะ
วิวสวยมากเลยค่ะ

ตรงข้ามปากถ้ำกระแซ หากมองไปด้านล่าง
จะมีร้านอาหารและที่พักอยู่
เอาล่ะค่ะ ... ได้เวลาเดินทางกันต่อแล้ว


พวกเราออกจากถ้ำกระแซมุ่งหน้าไปยัง จ.นครปฐม
เพื่อไปอุดหนุนร้านอาหารเพื่อนของพวกเราค่ะ

ระหว่างทางผ่านน้ำตกไทรโยคด้วยค่ะ
ขนาดริมถนน น้ำยังเยอะขนาดนี้
ข้างในไม่ต้องคิดเลยค่ะ

พวกเราใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงก็ถึงค่ะ
หากมาจากกาญจนบุรี ตรงเข้ามานครปฐม
จะผ่าน ม.ราชภัฏนครปฐม และ ม.ศิลปากร วิทยาเขตสนามจันทร์
เลยมานิดหน่อย ร้านนี้อยู่ตรงสามแยกใหญ่เลยค่ะ 

พวกเราสั่งลาบปลา...จำชื่อปลาไม่ได้ค่ะ อิอิ

เนื้อเอามาทำลาบ ส่วนหัวเอาไปทำต้มนำค่ะ
2 อย่างนี้มาเป็นชุดอยู่แล้ว

ตำข้าวโพด 
พวกเราหอบข้าวโพดสดจากไร่มาจากเมืองกาญค่ะ
เอามาให้เพื่อนทำให้

เนื่องจากคืนนี้พวกเราต้องกลับไปนอนที่ปทุมธานี
พวกเราเลยใช้เวลาที่นี่ไม่นาน
เวลาประมาณ 5 โมงเย็น
พวกเราไปยังพระปฐมเจดีย์ค่ะ

ลงไปถ่ายภาพ


ขับรถวนเก็บภาพ 


เนื่องจากฝนตก และลมแรงมาก
พวกเราเลยอยู่ที่นี่ไม่นาน

จากนั้นก็มุ่งหน้ายัง จ.ปทุมธานี
เพื่อไปคืนรถให้พี่ และเข้าที่พักค่ะ

---------สรุปค่าใช้จ่าย---------
1. น้ำมันรถ 1000 บาท
2. ค่าอาหาร 570 บาท


^___________________^



ไม่มีความคิดเห็น: